บททดสอบของ “มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์” เพื่อก้าวสู่กองหลังระดับโลก

บททดสอบของ “มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์” เพื่อก้าวสู่กองหลังระดับโลก

เล่นเอาเจ้าตัวถึงกับอึ้งไปเหมือนกัน เมื่อมัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ ต้องใช้เวลาอยู่บนม้านั่งสำรองตลอดทั้งเกม เพื่อดูเพื่อนร่วมทีมใหม่บุกเฉือนชนะปาร์ม่า 1-0 ประเดิมศึกกัลโช่ เซเรียอา ทั้งที่เมื่อฤดูกาลก่อนเขายังสวมปอกแขนกัปตันทีมนำอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมไล่ล่าแชมป์แทบทุกนัด เป็นกำลังสำคัญช่วยให้ต้นสังกัดเก่าคว้าดับเบิลแชมป์ในประเทศได้สำเร็จ และยังทะลุถึงรอบรองชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอีกด้วย

                ฤดูกาลที่แล้ว เดอ ลิกต์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นทั้งในลีกดัตช์และลีกยุโรป จนได้รับรางวัลส่วนตัวมากมาย ประเดิมด้วย “โกลเด้น บอย 2018” รางวัลที่มอบให้นักเตะดาวรุ่งแห่งปีของยุโรป นับเป็นผู้เล่นตำแหน่งกองหลังคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ ตามด้วยรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกดัตช์ และมีรายชื่อเป็นหนึ่งในทีมยอมเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รางวัลทั้งหมดส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะเนื้อหอมที่สุดในตลาดนักเตะรอบที่ผ่านมา

                อาแจ็กซ์รู้ดีว่าลีกดัตช์เล็กเกินไปแล้วสำหรับเดอ ลิกต์ สโมสรจึงเปิดรับทุกข้อเสนอสำหรับกัปตันอายุน้อยที่สุด บาร์เซโลน่า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และบาเยิร์น มิวนิค พยายามอย่างหนักในการล่าลายเซ็นปราการหลังตัวกลางรายนี้ แต่สุดท้ายก็เป็นยูเวนตุสที่ได้กองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ไปครอบครองด้วยค่าตัว 75 ล้านยูโรบวกออฟชั่นเพิ่มเติมอีก 10.5 ล้านยูโร สมน้ำสมเนื้อกับดีกรีอนาคตกองหลังระดับโลก โดยการย้ายทีมครั้งนี้กองหลังวัย 20 ปียืนยันว่าเงินไม่ใช่ปัจจัยหลัก แต่เพราะชื่นชอบปรัชญาการทำทีมของเมาริซิโอ ซาร์รี่ต่างหาก แต่แล้วกุนซือชาวอีตาเลียนก็เลือกใช้บริการความเก๋าจากเลโอนาร์โด โบนุชชี่ และจอร์โจ้ คิเอลลินี่ ลงเล่นร่วมกันในนัดเปิดฤดูกาลซะอย่างนั้น

                โบนุชชี่ และคิเอลลินี่ ร่วมป้องกันประตูให้กับทีมม้าลายมาเกือบ 10 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งคู่หูปราการหลังตัวกลางชั้นนำของยุโรป จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เดอ ลิกต์จะสอดแทรกได้อย่างรวดเร็ว แม้จะผิดหวังกับการต้องตกอยู่ในสถานะตัวสำรองแต่อดีตกัปตันทีมอาแจ็กซ์ก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นผ่านบทสัมภาษณ์

“โดยปกติแล้วผมอยากลงเล่น ผมทำได้ดีตอนซ้อม ดังนั้นผมจึงไม่คาดว่าจะตกเป็นตัวสำรอง แต่ผมก็เคารพการตัดสินใจของผู้จัดการทีม ผมยอมรับว่ายังต้องปรับตัวกับการเล่นในอิตาลี ผมจะพยายามทวงตำแหน่งของผมในปีนี้ ผมทำงานอย่างหนักในเรื่องเสริมสร้างร่างกาย ซึ่งสังเกตได้ว่าผมแข็งแกร่งขึ้น”

นักวิจารณ์หลายคนมองว่า เดอ ลิกต์ ตัดสินใจย้ายออกจากอาแจ็กซ์เร็วเกินไป ควรอยู่ลงเล่นในลีกดัตช์อย่างสม่ำเสมออีกสักปี ดีกว่าต้องใช้เวลาหมดไปบนซุ้มม้านั่งสำรองซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาฝีเท้า แต่ก็สามารถเข้าใจได้ เมื่อนักเตะรุ่นพี่หลายคนที่ประสบความสำเร็จต่างแสวงหาความท้าทายเพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเองกันทั้งนั้น ดังภาษิตจีนที่ว่า “หากปลาคาร์ฟไม่ว่ายฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกราก จะกลายร่างเป็นมังกรได้อย่างไร”